Tacx Neo Smart
Sport Bicycleเงียบ, สมูท, แม่นยำ, ใช้งานง่าย ในราคา Premium ได้รับคะแนนรีวิวจาก BikeRadar ถึง 9/10
ความคาดหวังที่สูง ในทุกแง่มุมของ Smart Trainer ตัว Top จาก Tacx แน่นอนว่านั้นรวมไปถึง ราคาด้วย
จุดเด่น: แข็งแรง, เงียบ, การวัดค่า Watt ที่แม่นยำสุดๆ, ต่อกับ Software ค่ายต่างๆได้อย่างง่ายดาย, ระบบหน่วงให้ความรู้สึกแบบเดียวกับน้ำมัน
จุดที่น่าปรับปรุง: ราคาสูง, Software รองรับแต่ PC(อาจมีการอัพเดทในอนาคต), แกนล้อขยับได้เล็กน้อย
จัดเถอะ: ถ้าราคาไม่ใช้ประเด็นสำหรับคุณ ซื้อเถอะแล้วจะไม่ผิดหวังกับความสามารถของ Smart Trainer ตัว Top จาก Tacx
Smart trainers ทั้งหลายคือ trainer ที่สามารถสร้างแรงต้านแบบไร้สาย ผ่าน Applications หรือ Software ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นบันทึกการปั่น และควบคุมแรงต้านเพื่อจำลองเส้นทางบนภูเขา หรือแม้กระทั้งการซ้อมแบบ Intervals ด้วยประสิทธิภาพในด้านนี้เองที่ทำให้ Tacx Neo Smart เป็นหัวแถวของวงการสมาร์ทเทรนเนอร์
ด้วยลักษณะรูปร่างหน้าตาเหมือน ยานของ Kylo Ren ในหนัง Scifi สุดดังอย่าง STAR WARS เมื่อทำการติดตั้งแล้วจะมีความมั่นคง, นิ่ง, และเสียงเงียบ และมีไฟ LED บอกสถานะตามแรงที่คุณปั่นบนเทรนเนอร์
ในด้านการเชื่อมต่อนั้น รองรับการเชื่อมต่อทั้ง ANT+ และ Bluetooth ทำให้คุณสามารถเชื่อมต่อกับ Software การปั่นที่เป็นที่นิยมอย่าง Zwift, TrainerRoad หรือ KinoMap และด้วยระบบแรงต้านที่จำลองสภาพถนนบนโลกเสมือน ทำให้การซ้อมไม่น่าเบื่ออีกต่อไป ระบบสร้างแรงต้านที่ปรับแรงต้านได้อย่างเรียบเนียนไม่มีอาการสะดุด การวัดค่า Power(watts) ก็ทำได้อย่างแม่นยำไร้ที่ติ หลังจากที่ได้ทำการทดสอบเปรียบเทียบกับ Power meter ชั้นนำอย่าง SRM
Road surface simulation
ใครเคยอยากจะไปลองปั่นบนเส้นทางสุดคลาสสิกอย่าง Roubaix กันบ้าง? ผมละคนหนึ่งละครับ ที่อยากจะรู้เหลือเกินว่า Cobblestones นั้นรู้สึกยังไง ด้วย Tacx NEO ที่สามารถจำลองแรงสะเทือนจากพื้นถนนเช่นเดียวกับที่คุณปั่นบนถนนจริงได้ มันน่าทึ่งใช่ไหมครับ ฟังชั่นใหม่นี้ได้รับการอัพเดทในภายหลัง ท่านที่เป็นเจ้าของ NEO อยู่ก่อนแล้วก็สามารถอัพเดท Firmware ได้เอง โดยที่ระบบนี้จะรองรับกับ Software ของ Tacx อย่าง Tacx Films / Virtual worlds บางเส้นทาง และ Software สุดโด่งดังอย่าง Zwift
อ่านมาถึงตรงนี้หลายท่านอาจจะรู้สึกว่า Tacx Neo Smart มันจะเทพเกินไปแล้ว ไม่มีข้อเสียบ้างหรือไง?
คงต้องตอบตรงๆ ว่ามีแน่นอน และนี่ก็คือ 4 ข้อที่เราอยากจะให้ Tacx ปรับปรุง
- Road surface simulation mechanic เกือบดีแล้วเชียว! แกนหลังมันให้ตัวได้เล็กน้อย! แม้ว่าจะเป็นกลไกหนึ่งของ Road surface simulation โอเค...มันอาจจะช่วยให้การปั่นบนเทรนเนอร์ไม่แข็งทื่อ แต่นั้นก็ทำให้หลายคนรู้สึกไม่มั่นคงเช่นเดียวกัน แต่ถ้าแกนหลังแน่นและนิ่ง โดยที่ยังคงมีฟังชั่นสุดล้ำเช่นเดิม เราคงจะสบายใจกว่านี้ . . . Tacx คุณทำได้อยู่แล้ว
- PC Only – Tacx computer software, what’s about Mac users? ความจริงที่ว่า Software ของ Tacx รองรับแต่ PC เท่านั้น, แล้วคนใช้ Mac ละครับ? แน่นอนว่า Software อย่าง Zwift รองรับทั้ง Mac และ PC แต่เราต้องจ่ายค่าบริการรายเดือน ในขณะที่ Software ของ Tacx เองบนฝั่ง PC ก็สามารถใช้ซ้อมได้โดยไม่เสียเงิน ผู้ใช้ Mac แอบน้อยใจนะครับ
- ยังจำเป็นต้องมีที่รองล้อหน้า! ผมออกตัวก่อนเลยว่าผมเป็น Fan boy ของ STAR WARS รูปร่างหน้าตาของ NEO นั้นถูกจริตของผมอย่างมาก แต่! ด้วยขาที่สูงขนาดนั้น จนจำเป็นต้องใช้ถาดรองล้อหน้า เพื่อให้จักรยานติดตั้งบนเทรนเนอร์ได้ระดับอย่างที่ควรจะเป็น มันจะดีกว่านี้มาก ถ้าลดความสูงลงมา แล้วโยนถาดรองล้อหน้าทิ้งไปซะ
- ราคา! เทรนเนอร์ระดับ Premium ก็มาพร้อมราคาระดับ Premium อย่างไม่ต้องสงสัย แต่เมื่อเทียบกับคู่แข่ง Smart Trainers ด้วยกันแล้วก็ถือว่าสูงอยู่เหมือนกัน ถ้าปรับราคาลง แน่นอนว่าจะเป็นมิตรกับกระเป๋าสตางค์นักปั่นมากขึ้นแน่นอน
เมื่อในด้านประสิทธิภาพการวัด Power(Watts) NEO ทำได้โดดเด่นมากกว่าเพื่อนร่วมวงการ ด้วยการใช้ระบบแม่เหล็กในระบบหน่วง ที่ทำงานร่วมกับมอเตอร์ภายใน เมื่อสองระบบนี้ทำงานร่วมกันเสมือนระบบเบรกแบบไฟฟ้า ที่สร้างแรงต้านได้อย่างมหาศาลถึง 2,200w และการวัดค่า Watts ที่มีความคลาดเคลื่อนน้อยกว่า 1% และเมื่อนำค่า Watts ของ NEO เปรียบเทียบกับ Power Meter ระดับ Premium เช่น SRM พบว่าค่า Watts ที่วัดได้คลาดเคลื่อนกันน้อยมากในระดับเลขตัวเดียว ในขณะที่ Trainers ต่างค่ายทำได้ในช่วง 15-20W เท่านั้น โดยไม่จำเป็นต้องทำการ Calibrate NEO ด้วยซ้ำ ประสิทธิภาพด้านนี้ NEO ทำได้น่าประทับใจมากๆ
ในแง่ของแรงต้าน สามารถสร้างแรงต้านได้ถึง 450 watts เมื่อปั่นอยู่ที่ความเร็ว 6km/h เพื่อจำลองเนินชัน ซึ่งสามารถจำลองเนินชันได้ถึง 25%
ZWIFT – ด้วย software ตัวนี้ที่สามารถดึงประสิทธิภาพของ NEO ออกมาได้อย่างเด่นชัด โดยเมื่อเราปั่นบนเส้นทางราบเรียบในโลกจำลอง ก็จะรู้สึกเสมือนจริงมากๆ โดยเฉพาะที่เราเริ่มไต่เขาในโลกเสมือนนี้ แรงต้านก็จะเพิ่มขึ้นตามความชันของเนิน เมื่อลงเนินเราก็สามารถใส่เกียร์หนักเพื่อส่งความเร็วได้เหมือนบนถนนจริง
การใช้ NEO Power ร่วมกับ Software ในการฝึกเช่น TrainerRoad, NEO จะสร้างแรงต้านตาม Watts ที่เราจะฝึกโดยที่ NEO จะปรับแรงต้านเมื่อเราปั่น Watts เกินหรือต่ำกว่า 15w เพื่อรู้สึกเป็นธรรมชาติ และเพื่อให้ร่างกายนักปั่นสามารถจดจำแรงกดได้ แตกต่างจากเพื่อน Smart Trainer ต่างค่ายที่จะปรับแรงต้านให้คงที่ ส่วนอันไหนดีกว่ากันก็ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนตัวของแต่ละบุคคลละครับ
Unplugged!
ไม่ใช่คอนเสิร์ตนะครับ แต่เราสามารถใช้งาน NEO โดยไม่ต้องเสียบปลั๊กโดยใช้งานร่วมกับ Software ค่ายอื่นๆอย่าง Zwift ก็ได้เช่นกัน น่าทึ่งใช่ไหมครับ แต่หากเราต้องการแรงต้านอย่างเต็มประสิทธิภาพ หรือฟั่งชั่นล้อหลังหมุนตอนลงเนินยังคงต้องเสียบปลั๊กนะครับ
ไม่โวยวายเหมือนคู่แข่ง
เสียง NEO ในขณะทำงานไม่ถึงกับเงียบกริบ แต่ก็ถือว่าเสียงเบากว่าคู่แข่งพอสมควร หลังจากทดสอบปั่นที่ 200w แล้ววัดเสียงฮัมของ NEOได้ที่ 78dB ในขณะที่เพื่อนต่างค่ายที่สุ่มเสียงสุภาพใกล้เคียงกันที่ 79dB หรือโวยวายระดับ 90dB
NEO มีโม่ที่รองรับชุดขับเคลื่อนทั้งสามค่ายไม่ว่าจะเป็น Shimano/SRAM หรือแม้กระทั้ง Campagnolo แกนโม่หน้าตาประหลาดที่ชวนสับสนตอนประกอบเฟืองก็ไม่มีปัญหานัก และคงไม่ได้เปลี่ยนกันบ่อยๆ ในขณะที่ลูกเล่นไฟบอกสถานะใต้เครื่องที่ไม่เกี่ยวกับสถานการณ์ทำงานของ NEO เลย! แล้วจะใส่มาทำไม? ไฟตัวนี้จะแสดงสถานะตาม Watts ที่วัดได้แทน เป็น Gimmick เล็กๆที่ใส่เข้ามาด้วย
ด้วยการทำงานที่ทำให้การปั่นมีความสมจริง รวมเข้ากับการวัดค่า Power ที่สุดยอด NEO จึงเป็น Smart Trainer ที่กลายเป็นมาตรฐานระดับสูงอย่างไม่ต้องสงสัย
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Showroom Peloton Thailand หรือตัวแทนจำหน่ายใกล้บ้านท่าน
https://www.sportforlife.co.th/dealer